ปกติงานเขียนอีกประเภทที่เราชอบอ่านคือ นิยายกำลังภายใน ซึ่งเราก็ติดตามงานเขียนของยอดนักเขียนแนวนี้อยู่เรื่อยๆ ทั้ง โกวเล้ง กิมย้ง หรือหวงอี้ แนวทางของนิยายของประเภทนี้ดูไปก็คล้ายๆ กับเรื่องชวนฝันของชายหนุ่มทีเดียว เพราะเนื้อเรื่องมักไปในทำนองตัวเอก (ซึ่งล้วนแต่เป็นเพศชาย) ซึ่งมักยังไม่มีฝีมือในตอนแรก แต่โชคชะตาก็จะพลิกผันให้ไปเจอสุดยอดอาจารย์บ้าง บังเอิญไปเจอสุดยอดคัมภีร์ในตำนานบ้าง บังเอิญถูกกระตุ้นจุดสำคัญในร่างกายให้พลังเพิ่มขึ้นบ้าง จนสุดท้ายก็ต้องไปสู้กับจอมมาร หรือคู่ปรับที่วรยุทธสูงทัดเทียมกัน
ในขณะเดียวกันผู้คนที่รายล้อมตัวเอก ก็มักเป็นหญิงงามผู้มีวรยุทธสูงส่ง ไม่ก็สุดยอดฝีมือผู้งำประกายจนดูคล้ายคนธรรมดาทั่วไป ถ้าเป็นตัวร้ายก็มักมีหน้าตาอัปลักษณ์จิตใจหยาบช้า ที่เหลือก็เป็นตัวประกอบทั่วไปทั้งพ่อค้า นางคณิกา หรือยาจก
ด้วยความที่นิยายเหล่านี้มักวนเวียนแต่แบบนี้ ตัวละครก็ไม่มีมิติซับซ้อนมากนัก ทำให้บางทีอ่านไปเรื่อยๆ ก็พาลทำให้เบื่อได้ ช่วงหลังๆ เราจึงร้างราจากยุทธจักรกำลังภายในไป (เรื่องล่าสุดที่อ่านคือ จอมคนแผ่นดินเดือด เล่ม 3 มั้ง แล้วก็หมดแรงฮึดอ่านต่อ)
จนกระทั่งเราเจอหนังสือชื่อ "ลมปราณเจ็ดร้อยปี 30 เรื่องสั้นกำลังภายในของฟ้า" ซึ่งเป็นผลงานของ ฟ้า พูลวรลักษณ์ นักเขียนที่เราเคยได้ยินชื่อเสียงของเขาบ้างในงานเกี่ยวกับแคนโต้ และหนังสือเรื่อง "ห้องเรียนที่เงียบที่สุดในโลก" แต่เรายังไม่เคยอ่านงานของฟ้าอย่างจริงจัง
พอเราลองอ่านเรื่องสั้นกำลังภายในของฟ้าดู ก็ค้นพบว่าความสนุกของการอ่านนิยายกำลังภายในได้กลับมาอีกครั้ง ในความรู้สึกที่สดใหม่กว่าเดิม!
กล่าวคือ แนวทางในเล่มยังคงเป็นนิยายกำลังภายในที่คุ้นเคย มียุทธจักรที่มีสำนักน้อยใหญ่มากมาย มีฝ่ายธรรมมะ ฝ่ายอธรรม มีตัวเอกที่บังเอิญได้วรยุทธขั้นสูงโดยไม่คาดฝัน ทั้งหมดนี้ดูไม่มีอะไรแปลกใหม่
แต่ความแปลกใหม่ที่เรารู้สึกคือ ด้วยความที่มันเป็นเรื่องสั้น ไม่ใช่นิยายแบบเดิมที่เราเคยอ่าน ทำให้ต้องเล่าเรื่องให้จบในไม่กี่หน้ากระดาษ ดังนั้นการเดินเรื่องจึงต้องเข้าสู่ประเด็นทันที ไม่มีการพรรณนาอะไรมากมายเหมือนนิยาย อีกทั้งบางตอนในเรื่องสั้นก็จบลงอย่างค้างคา ให้เราไปคิดต่อเอาเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ยกตัวอย่างง่ายๆ ตอนนึงในเรื่องสั้น ถ้าเป็นกลายเป็นนิยายกำลังภายใน ก็จะบรรยายว่าปมขัดแย้งคืออะไร ทำไมต้องต่อสู้กัน จากนั้นก็เริ่มต่อสู้กันพร้อมการบรรยายฉากต่อสู้ให้เห็นภาพ และจบลงด้วยบทสรุปการต่อสู้ แต่ในเรื่องสั้น มันเป็นแค่การบรรยายปมว่าทำไมต่อสู้ พร้อมบรรยายความคิดในจิตใจของตัวละครก่อนจะเริ่มสู้ พอตัวเอกจับดาบ เรื่องก็จบแค่นั้น
อีกประการที่เราชื่นชอบมากคือ ปกติในนิยาย เราจะรู้ความคิดจิตใจของตัวละครไม่กี่คน ส่วนมากมักเป็นตัวพระเอก แต่ในเรื่องสั้นของฟ้านี้ ได้ขยายขอบเขตตัวละครไปไกลจนเรานับถือ เพราะนอกจากเรื่องสั้นจะมีตอนที่ตัวละครหลักเป็นพระเอกแล้ว ยังมีตอนที่ตัวละครหลักเป็นนางเอก จอมมาร พลทหารกระจอก นางสนมธรรมดา ภรรยาตัวร้าย ฯลฯ
การที่โฟกัสไปที่ตัวละครหลากหลายเหล่านี้ ทำให้เราย้อนกลับมาคิดเลยว่า ทุกตัวละครล้วนมีจิตใจ มีมุมมองเป็นของตัวมันเอง การเขียนในแบบเรื่องสั้นนี้เป็นข้อได้เปรียบที่สามารถกระจายบทไปยังตัวละครหลายประเภทได้ ถ้าเป็นในนิยายคงยาก และเมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตจริง ก็ยิ่งชัดเจนว่า คนเราบางทีก็ไม่ได้สวมบทบาทเป็นพระเอกนางเอก บางคนอาจมีบทบาทเล็กๆ ในสังคม มีถึงกระนั้นเขาก็ยังมีความคิดจิตใจ มีอิสระเสรี และมีความสำคัญไม่แพ้คนเด่นดังเลย
สิ่งที่ชอบอีกอย่างในหนังสือเล่มนี้ คือภาพประกอบที่วาดด้วยพู่กันจีนของ ยอดฉัตร บุพศิริ ช่างสวยงามยิ่งนัก
แม้เรื่องสั้นกำลังภายในของฟ้า อาจไม่ใช่คนแรกที่ทำเรื่องสั้นกำลังภายใน (ในจีนคงมีมากมาย แต่เราไม่รู้เอง) แต่อย่างน้อยหนังสือเล่มนี้ก็ช่วยจุดไฟในการอยากอ่านเรื่องแนวกำลังภายในอีกครั้ง ขอคารวะผู้จัดทำ 3 จอกครับ
ป.ล. เรื่องสั้นกำลังภายในของฟ้า มี 2 เล่มคือ "ลมปราณเจ็ดร้อยปี" กับ "จอมดาบทะเลบ้า" เราอ่านเล่มแรกจบแล้ว กำลังหาเล่มหลังมาอ่าน
Recent Comments